วันอาทิตย์

คุ้มค่า




เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา..

เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง..

เกิดมาชาติหนึ่งได้มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์..

ปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต.. เป็น"อุปบารมี"

เยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย..

ชาตินี้จะมีอะไรให้ต้องสำนึกเสียใจอีก.!!!!


เด็กข้างวัด..



วันเสาร์

งมงาย




ไม่คิดไม่แปลก..

ห้างสรรพสินค้าสร้างได้ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดัง..

แต่วัดจะให้ขลังต้องดูเก่าๆคร่ำคร่า..

คนไทยถึงจะยอมรับว่าน่า"ศรัทธา"???


"ธรรมกาย"วางแผนจะเผยแผ่ไปทั่วโลก..

ก็ไม่แปลกที่จะต้องสร้างแบรนด์ให้ดูดี..

คิดจะเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนา..

หรือว่าจะให้มาเจอแต่ศาลาเก่าๆ.!!!


พระไม่จำเป็นต้องดูจนๆ.. อยู่อย่างลำบากๆ..

รองเท้าไม่ใส่.. น้ำต้องแบกมาอาบ..

ไฟฟ้าไม่มีจะใช้.. กุฏิต้องมีแมลงสาบ..

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่นอก"ธรรมวินัย"


ถ้าจะวิจารณ์อะไรก็ศึกษากันซักนิด..

ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว..

ไม่ใช่อยู่ในช่วงสมัยยัง"ขี่ม้าส่งสาร" 

แต่มันคือยุคของอินเตอร์เน็ทความเร็วสูง


ขอให้ยังปฏิบัติตนอยู่ในศีล 227 ข้อ..

ส่วนว่าจะใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการเผยแผ่..

ก็ไม่เห็นว่าจะผิดอะไร.. และหากใช้ให้ถูกทาง

กลับช่วยขยายงานได้รวดเร็วได้กว้างไกลกว่ากันตั้งเยอะ


ครั้งนี้ DSI "พาทัวร์"ดูรอบพื้นที่วัดทั้ง 2000 ไร่..

ได้เห็นกันแล้วว่าเงินบริจาคเอาไปทำอะไร..

แล้วถ้าจะว่าเรื่อง"คำสอน"ของธรรมกาย

ถ้ายังไม่เคยมา.. เพียงแค่ฟังเขาเล่าว่า..

คุณก็ปฏิบัติผิดที่พระพุทธเจ้าทรงสอนแล้ว..

"จงอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง".!!!!


เด็กข้างวัด..


วันศุกร์

มันน่า..


คลิ๊ก อ่านข่าว


นักข่าวก็ช่างยั่วเสียจริง..

เล่นเอา"ลุงตู่"บ่นอารมณ์เสีย..

เจ้าหน้าที่ไม่มาก็ว่าทำไมไม่ไปจับ..

พอมาก็บอกว่าขนกันมาทำไมมากมาย..

ประกาศใช้ ม. 44 ก็หาว่ามั่นใจว่า"หลวงพ่อ"ต้องอยู่วัด..

แต่พอจับไม่ได้ก็ด่าเจ้าหน้าที่หาว่าไม่เช็คข่าวให้ดี..

สรุปให้ละกันงั้น.. "ถ้าอยู่ก็เจอ ไม่อยู่ก็ไม่เจอ"

กลับบ้านเถอะ.. จบข่าว!!!


เด็กข้างวัด..



เหล่ากอสมณะ





อีกไม่กี่วันก็จะสอบบาลีแล้ว..

ความเพียรที่เฝ้าเรียนมาตลอด 1 ปี..

ใกล้จะถึงคราววัดผลกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า..

เพราะฉะนั้นเวลาทุกนาทีมีค่า.. 

ทั้งกิจวัตรและกิจกรรม.. แถมยังมีบุญ"พิเศษ"

ก็คงต้องใช้ให้คุ้มกับทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย.!!!!


เด็กข้างวัด..


วันพฤหัสบดี

เร็วแท้



2 วันก่อนเพิ่งกราบรับโอวาท..

"ท่านทั้งหลายก็มีธรรมะคือความดี ความงามประจำใจอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายจงรักษาความดี ความงาม ที่ท่านมีอยู่แล้วนี้ ให้คงที่ไว้ตลอดไป"

"เราก็ล้วนเป็นพุทธบริษัทด้วยกัน เพราะฉะนั้น ก็ขอให้เรารักษาจิตใจ ที่เราเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัย ให้คงที่ไว้"

มาวันนี้..

"DSI - ตำรวจ - ทหาร 20 ทีม ปฏิบัติการบุกธรรมกาย ประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ"

หลักธรรมที่เพิ่งได้รับมายังไม่ทันจางหาย วันนี้มาล้อมวัดซะแล้ว.!!!!


เด็กข้างวัด..

วันพุธ

มีหวัง




วัดพระธรรมกาย..

11-12 กุมภาพันธ์ 2560..

สื่อไทยทุกฉบับรวมถึงสื่อต่างประเทศต่างลงข่าวงาน"มาฆบูชา"

"สุดยิ่งใหญ่อลังการ" "สาธุชนล้นหลาม" "ลานธรรมของชาวพุทธ" 

องค์กร 40 ประเทศร่วมงาน.. จุดประทีปนับแสนดวง..


ผ่านมาแค่ 2 วัน..

"ศรีวราห์เตรียมบุก" "DSI ประเมินสถานการณ์" "ครั้งนี้ใช้กำลังทหาร" 

แถมยังมี "จะประกาศให้เป็นเขตควบคุมพื้นที่พิเศษ"

ตกลงว่าจะเชียร์หรือจะทุบ.???

หรือคิดใช้แผนหลอกล่อให้ตายใจ.???


ชาวไทยยังไม่คลายความปลาบปลื้มดีใจ..

กับการมีสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่..

ยิ่งรู้ว่าเป็นสมเด็จพระมหามุนีวงศ์จากวัดราชบพิธฯ..

ต่างก็แซ่สร้องสรรเสริญอนุโมทนาสาธุการ..

เพราะ"พระองค์"งามสง่าควรแก่การกราบไหว้บูชา


บ้านเมืองกำลังต้องการความสามัคคี..

รัฐบาลก็พยายามจะให้เกิดการปรองดองขึ้น..

การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชขึ้นมาในช่วงเวลานี้..

ก็ยิ่งทำให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้นว่า..

ชาติไทยจะหวนกลับคืนสู่ความสงบสุขในเร็ววัน.!!!


แต่ก็ยังคงมี"บางกลุ่ม"พยายามจะกวนน้ำให้ขุ่น..

โดยมีสื่อบางฉบับที่ขายข่าว"แนวเน่า"

ทั้งดิสเครดิตรัฐบาล.. ทั้งพยายามทำลายสงฆ์..

แถมยังมีบางคนที่คิด"โหน"กระแสตั้งพระสังฆราช..

เอาเรื่องที่จบไปแล้วขึ้นมาให้"พระองค์"พิจารณาใหม่


ดีที่โดนเบรกตั้งแต่ประตูวัด..

เพราะ"เรื่องนั้น"มันขัดกับพระธรรมวินัย..

ฆราวาสที่คิดจะปกครองพระก็เลยต้องม้วนเสื่อกลับออกไป..

ก็เหลือแต่"ทหาร"ที่ว่าจะมาบุกวัด..

หากมาแบบ"ลุงตู่"โดยมีสัมมาคารวะ..

มันก็จะดูน่ารักมิใช่น้อยเลย..จิจินะ!!!!


เด็กข้างวัด..



วันอังคาร

ประสงค์ร้าย





เพิ่งจะสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ได้ 3 วัน..

แต่เหล่า"คนเก่า"ก็เตรียมจ้องจะแอบอ้างพระนามกันซะแล้ว..

โดยการจะเอาเหล้าเก่าย้อนกลับมาขายใหม่..

เกี่ยวกับคดีของหลวงพ่อวัดใหญ่เมืองปทุม


"สมพร เทพสิทธา" ร่วมกับ "มานพ พลไพรินทร์"

เคยแจ้งความหลวงพ่อวัดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2542..

ทั้งคดีทางโลกก็คือเรื่องเงินๆทองๆ..

ส่วนคดีทางธรรมก็เรื่องเกี่ยวกับ"พระลิขิต"


คดีทางโลกต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่ถึง 7 ปี..

สืบพยานกันทุกอาทิตย์ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย..

จนผลปรากฎชัดออกมาว่าหลวงพ่อท่าน"บริสุทธิ์"

อัยการสูงสุดจึงได้ถอนฟ้องไปในปี 2549.!!!


ส่วนคดีทางธรรมก็เข้าสู่มหาเถรสมาคม..

แต่เพราะ"ที่มาที่ไป"ของพระลิขิต..

มันทั้งไม่ชอบด้วยที่มา.. และก็ทั้งไม่ชอบด้วยที่ไป..

เพราะมันขัดกับทั้งพระธรรมวินัยและกฎมหาเถรสมาคม.!!!


แต่เป็นเพราะไม่สะดวกกับการจะอรรถาธิบายมากความ..

เพราะต้องการจะรักษาพระเกียรติของสมเด็จพระสังฆราช..

มหาเถรสมาคมจึงต้องพยายามทำเรื่องให้เงียบ..

แต่กลับกลายเป็นช่องให้พวก"เหล่านี้"นำมาใช้โจมตี มส.


"สมพร เทพสิทธา"เคยพยายามอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว..

แต่ มส. ก็ยังยืนยันว่าคดีได้ถึงที่สุดแล้ว..

เลยคิดจะฉวยโอกาสตั้งพระสังฆราชองค์ใหม่..

โดยมิได้สนใจในพระธรรมวินัยของพระที่ว่า..

"ภิกษุใดรู้อยู่ รื้อฟื้นอธิกรณ์ที่ทำเสร็จแล้วตามธรรมเพื่อพิจารณาใหม่ ต้องอาบัติปาจิตตีย์"

แล้วอย่างนี้จะไม่เรียกบุคคลเหล่านี้ว่า"เหลือบ"ศาสนาแล้วจะเรียกว่าอะไร.???


เด็กข้างวัด..